วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 17
วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2562
เวลา 8.30 - 12.30 น.



กิจกรรม  ➤  ตรวจผลงาน + จัดนิทรรศการโชว์ผลงานศิลปะ
                วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอนวิชาการจัดประสบการณ์ศิลปสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย  วันนี้อาจารย์ให้นักศึกาาทุกคนรวบรวมผลงานของตนเองนำมาส่ง เพื่อลงคะแนน และนำผลงานมาจัดนิทรรศการร่วมกันภายในห้องเรียน โดยในการจัดนิทรรศการนั้น จะมีหลักในการจัดมุมต่างๆ เพื่อโชว์ผลงาน ให้ได้เห็นกันอย่างชัดเจน และมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจารย์ได้ให้คำแนะนำและความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลงานต่างๆ การจัดมุมต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่นักศึกษาได้นำไปต่อยอดให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น




นิทรรศการผลงานศิลปสร้างสรรค์ ของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 
สาขาการศึกษาปฐมวัย

























ประเมินผล

ประเมินตนเอง : ส่งผลงานทุกชิ้นตามกำหนด นำคำแนะนำของอาจารย์ไปปรับใช้ได้ในอนาคต เกี่ยวกับการจัดกิจกรรม หรือผลงาน ได้เรียนรู้การแก้ไขเฉพาะหน้ามากขึ้น การทำงานศิลปะที่ต้องใสาใจรายละเอียด รอบคอบ และสิ่งสำคัญคือการคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ผลงานดูแตกต่าง มีมิติ และมีจุดเด่น

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆ มีผลงานที่มีจุดเด่นและ สวยงาม มีความคิดสร้างสรรคืที่แตกต่างหลากหลาย

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลงานต่างๆ ให้คะแนน และให้รางวัลเด็กดี และใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการ 



บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 16
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2562
เวลา 8.30 - 12.30 น.


ไม่มีการทำการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์ได้มอบหมายให้นักศึกษาทำชิ้นงานศิลปะให้เสร็จทุกชิ้น เพื่อนำมาจัดนิทรรศการโชว์ผลงานของนักศึกษา ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2562


วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562


บทความศิลปะ
เรื่อง ...ศิลปะกับการพัฒนาสมองมนุษย์

เรารู้กันมานานแล้วว่าศิลปะคือสิ่งจรรโลงจิตใจมนุษย์ ช่วยให้มนุษย์มีจิตใจที่อ่อนโยน สงบ และไม่หยาบกระด้าง  
เราใช้ศิลปะบางแขนงช่วยในการเยียวยาความเจ็บป่วยของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ 
นี่คือคุณประโยชน์ของศิลปะที่เรารับรู้ แต่ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่า แท้จริงศิลปะมีคุณประโยชน์ต่อมนุษย์มากมายกว่าที่เรารับรู้มากนัก




          ➤  ไม่นานมานี้เองนักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง (neuroscientist) ได้ค้นพบว่าปัจจัยที่ทำให้มนุษย์ฉลาด ก็คือ การที่เซลล์สมองมาต่อเชื่อมกันเป็นวงจรประสาท (neural circuit) ยิ่งเซลล์เหล่านี้ต่อเชื่อมกันเป็นวงจรและจัดระเบียบกันได้ดีมากเท่าใดก็จะทำให้ประสิทธิภาพของสมองมีมากขึ้นเท่านั้น นั่นก็คือทำให้มนุษย์ฉลาดมากขึ้นนั่นเอง คำถามที่นักวิทยาศาสตร์ถามต่อไปอีกก็คือ อะไรคือ ปัจจัยที่ทำให้เซลล์สมองเหล่านี้มาเรียงเชื่อมต่อกันเป็นวงจรที่สมบูรณ์ คำตอบที่ได้ก็คือการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง ๕ ของมนุษย์ การกระตุ้นและท้าทายความคิด การฝึกแก้ปัญหาและฝึกจินตนาการของมนุษย์นั่นเอง ดังนั้น ถ้าเราอยากฉลาดเราก็ต้องหากิจกรรมอะไรก็ตามที่สามารถทำให้เกิดสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น
 
กิจกรรมศิลปะก่อให้เกิดอะไรขึ้นในสมองมนุษย์?

            ➤ ถ้าจะตอบด้วยภาษาทางจิตวิทยาก็ต้องบอกว่า กิจกรรมศิลปะทำให้เกิดการพัฒนาจินตนาการของมนุษย์ ก่อให้เกิดความอ่อนโยนทางอารมณ์ เกิดสุนทรียภาพและความประทับใจ นอกจากนี้ ยังทำให้อวัยวะส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมเกิดการเคลื่อนไหว ซึ่งโดยสรุปแล้วเราก็ยังมองเห็นไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ในสมองมนุษย์ ตอบใหม่คราวนี้เราจะตอบโดยภาษาของนักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง ก็ต้องบอกว่ากิจกรรมศิลปะก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันของเซลล์สมองในส่วนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับจินตนาการ ความซาบซึ้งประทับใจ การเคลื่อนไหวประสานกันของมือไม้แขนขาที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นสมองส่วนหน้า (cerebral cortex) สมองส่วนกลาง (parietal lobe) สมองน้อย (cerebellum) หรือสมองส่วนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับอารมณ์ (amygdala) นี่คือความชัดเจนของกิจกรรมศิลปะที่มีต่อสมองมนุษย์ที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองได้นำมาให้เรารับรู้
 เราจะใช้กิจกรรมศิลปะกับเด็กนักเรียนเพื่อช่วยพัฒนาสมองและการเรียนรู้ได้อย่างไร?
            ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการใช้กิจกรรมศิลปะในที่นี้ไม่ใช่การฝึกฝนให้เด็กนักเรียนเป็นจิตรกรหรือปฏิมากรผู้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นการปลูกฝังให้นักเรียนมีความรักและซาบซึ้งในศิลปะ อยากจะทำงานศิลปะไม่ว่าแขนงใดๆ ก็ตาม เพราะเราต้องการให้การทำกิจกรรมศิลปะนี้ไปกระตุ้นการสร้างวงจรหลายๆ วงจรในสมองของเด็ก ผลงานศิลปะจะออกมาดีหรือไม่ดีไม่ใช่ประเด็น  เราต้องการสมองที่สมบูรณ์ ไม่ใช่งานศิลปะที่เลอเลิศ แต่อาจจะมีเด็กบางคนที่มีแววของความเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต ซึ่งครูต้องสังเกตให้ได้และช่วยสนับสนุนต่อไปเป็นกรณีพิเศษ อย่างไรก็ตาม การที่เขาได้สัมผัสกับกิจกรรมศิลปะตั้งแต่แรกๆ เป็นการสร้างวงจรพื้นฐาน ทางศิลปะในสมองของเขา ซึ่งมันจะถูกต่อยอดในโอกาสข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย
           ประเด็นต่อมาก็คือเราจะต้องไม่ตีกรอบให้เด็ก เด็กบางคนชอบวาดรูป บางคนชอบปั้นดิน ตัดกระดาษปะติดเป็นรูป เราต้องปล่อยตามอิสระในช่วงแรก เพราะนี่คือการสร้างความเข้มแข็งให้แก่วงจรของสมองในส่วนของจินตนาการ เด็กอาจจะลองหรือทดสอบไปเรื่อยๆ หาประสบการณ์แต่ละอย่างตามความชอบ ทุกสิ่งที่เขาสัมผัสจะส่งผลให้เซลล์ในสมองของเขาก่อรูปเป็นวงจรเรื่องต่างๆ ขึ้นมา โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดคือวงจรแห่งจินตนาการ เพราะมันจะเป็นรากฐานอันสำคัญของอีกหลายๆ เรื่องในชีวิตของเขาในอนาคต 

            อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มนุษย์ที่ทุกคนยกย่องว่าฉลาดที่สุดต่อจาก เซอร์ไอแซก นิวตัน ได้กล่าววาจาอันเป็นอมตะไว้ว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ Imagination is more important than knowledge." เพราะฉะนั้น เราต้องเปิดโอกาสให้กิจกรรมศิลปะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยก่อรูปวงจรของจินตนาการ ให้เกิดขึ้นในสมองของเด็กให้ได้ ศิลปะคืออีกภาษาหนึ่งของมนุษย์ เป็นภาษาสากลที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของศิลปินออกมาให้ผู้อื่นรับรู้ได้ เด็กบางคนอาจจะมีความยากลำบากในการสื่อสารด้วยภาษาพูด ภาษาเขียน โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ กิจกรรมศิลปะจึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถใช้เพื่อสื่อสารกับเด็ก เราจะสามารถรับรู้ความรู้สึกนึกคิด รู้ความต้องการและปัญหาของเขาได้ผ่านทางงานศิลปะ และที่สำคัญก็คือความสามารถในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดจินตนาการของมนุษย์ออกมาเป็นงานศิลปะนั้น เราถือเป็นความฉลาดอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่สามารถจรรโลงโลกให้สวยงามน่าอยู่น่าประทับใจได้ และงานศิลปะบางครั้งยังสามารถก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาลอีกด้วย

           ศิลปะ คือ เครื่องมือที่ทำให้ผู้สร้างงานศิลป์เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง การที่เด็กสร้างงานศิลปะขึ้นมาสักชิ้นจะดีหรือไม่ดี สวยหรือไม่สวย ไม่สำคัญเท่ากับว่าเขาได้ทำมันขึ้นมาแล้ว งานชิ้นนี้ได้ผ่านการวางกรอบแนวคิด วางแผนในการผลิต และลงมือผลิตจนแล้วเสร็จ นี่คือคุณค่าของงานที่เราจะต้องให้การชื่นชมมากกว่าคุณภาพของผลงาน  ผลแห่งการทำงานชิ้นดังกล่าวมันได้วางวงจรของการสร้างสรรค์งานศิลปะให้กับเด็กแล้ว นี่คือสิ่งที่เราต้องการ นอกจากนี้ การชื่นชมเด็กจะทำให้วงจรสมองในส่วนที่เกี่ยวกับการมองตนเอง การยอมรับนับถือตนเองและผู้อื่นมีความเข้มแข็งขึ้น
           สังคมใดๆ ก็ตาม ล้วนต้องการคนที่มีจินตนาการ สร้างสรรค์ คนที่มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดจินตนาการของตนเองออกมาทั้งในรูปแบบคำพูดและสัญลักษณ์ทางศิลปะ ตลอดจนต้องการคนที่เคารพตนเองและผู้อื่นด้วยกันทั้งนั้น กิจกรรมศิลปะคือกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งจรรโลงจิตใจมนุษย์เท่านั้น หากแต่เป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างคนที่มีความสามารถที่จะสร้างโลกใบนี้ให้เป็นไปตามที่ใจปรารถนาเลยทีเดียว

แหล่งที่มาบทความ
นิตยสารหมอชาวบ้าน 317
กันยายน 2548



บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 15
วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2562
เวลา 8.30 - 12.30 น.


ความรู้ที่ได้รับ  ➤ การสอบสอนกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์  ของกลุ่มที่ 2
                                วันนี้อาจารยืให้นักศึกษากลุ่มที่ 2 ที่ยังไม่ได้สอบในวันที่่ 11 เมษายน 2562 นั้นเตรียมกิจกรรมมาสอบให้ครบทุกคน  และคนที่สอบไปแล้วก็ให้ไปทำงานตามปกติ และอาจารย์ได้มอบหมายให้อัดคลิปวิดีโอการสอนลงบล็อก และนัดหมายวันส่งผลงาน


     ภาพบรรยากาศการสอนของเพื่อน ๆ










บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 14
วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2562
เวลา 8.30 - 12.30 น.


ความรู้ที่ได้รับ    ➤  สอบสอนกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์ + ส่งแผนการสอน
                       วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษากลุ่มที่ 1 มาสอบสอน มีทั้งหมด 10 คน และได้กำหนดเวลาในการสอนให้คนละ 15 นาที นักศึกษาได้เตรียมการสอนโดยจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ  ที่ใช้ในการสอนให้พร้อม ก่อนออกมาสอนตามเลขที่ ที่จับฉลากได้
                                   ในการสอนอาจารย์ให้เลือกแผนการสอนมา 1 แผน จาก 5 แผน และจัดเตรียมกิจกรรมตามในแผนที่เลือก เมื่อสอนเสร็จอาจารย์ได้ให้คะแนน ถามคำถามและแนะนำในการสอนกิจกรรมให้กับนักศึกษา จนครบทุกคน และได้มอบหมายงานให้นักศึกษาอัดคลิปวิดีโอการสอนกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์สำหรับเด็กเพื่อลงบล็อกของตัวเอง


        ➤ การสอนกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย ของนางสาว ณัฐชา  บุญทอง
แผนการสอนที่เลือกเป็นหน่วยสัตว์น่ารัก สำหรับเด็กอนุบาลชั้นปีที่ 3  มีกิจกรรมดังนี้

กิจกรรมพื้นฐาน  1. วาดภาพสัตว์ด้วยสีเทียน
                              2. ฉีกปะภาพสัตว์
                              3. ปั้นดินน้ำมันรูปสัตว์
กิจกรรมพิเศษ     4. ประดิษฐ์กระต่ายจากจานกระดาษ






⇩⇩⇩



ภาพบรรยากาศการสอน













การนำไปปรับใช้
- การสอนเด็กด้วยกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์ต่างๆ มีหลากหลายกิจกรรม และควรเลือกใช้กิจกรรมให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก
- การพูด การนำกิจกรรมเด็ก ต้องทำให้เด็กเห็นชัดเจนว่าครูกำลังทำอะไรขั้นตอนไหน 
- การนำกิจกรรมที่ได้สอนและกิจกรรมที่เพื่อนๆ ได้สอนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ในการสอนเด็กอนุบาล 
- นำคำสอนและคำแนะนำของอาจารย์ ไปปรับแก้และจัดกิจกรรมการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น



การประเมิน
ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเตรียมกิจกรรม และสอนด้วยความตั้งใจ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ นำไปปรับใช้ได้ รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆ ตั้งใจสอนและทำกิจกรรมออกมาได้ดี 
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์มีความตรงเวลา มีคำแนะนำต่างๆ ให้ในการสอน